การวิเคราะห์พื้นและผนัง เป็นขั้นตอนสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เมื่อต้องปรับปรุงโครงสร้างที่ใช้งานมานาน เพราะอาคารที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ย่อมมีความเสี่ยงแฝงที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัย
อาคารเก่าหลายแห่งอาจดูยังดูมั่นคง แต่ภายในคอนกรีตอาจมี เหล็กเสริมเป็นสนิม, ความสามารถในการรับน้ำหนักน้อยลง, หรือ ช่องว่างภายใน หากสกัดโดยไม่มีข้อมูลโครงสร้างภายใน อาจทำให้อาคารพังได้
ด้วยเหตุนี้ การวิเคราะห์คอนกรีตก่อนเจาะ โดยไม่ต้องทำลายพื้นผิว จึงเป็นมาตรการที่ช่วยป้องกันความเสียหาย รีโนเวทที่ดี ไม่ใช่แค่เรื่องของการปรับโฉมภายนอก แต่ต้องมั่นใจว่าโครงสร้างยังแข็งแรง
ผลกระทบที่เลี่ยงได้ ถ้าไม่ตรวจสอบก่อนปรับปรุงก่อนรีโนเวท
การซ่อมแซมอาคารดั้งเดิม โดยไม่ตรวจสอบโครงสร้างภายใน อาจทำให้ขั้นตอนเร็วขึ้น แต่ในความเป็นจริง อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มหลายเท่า
ลองนึกภาพว่า โครงการรีโนเวทกำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่จู่ ๆ เครื่องตัดกระแทกกับท่อประปา สิ่งเหล่านี้อาจทำให้โครงการต้องหยุดชะงัก และนี่คือเรื่องที่ต้องระวัง หากไม่มีการวิเคราะห์ล่วงหน้า
กระทบความแข็งแรงของอาคาร เจาะผิดเสี่ยงพังทั้งระบบ
การเจาะโดยไม่มีการเช็กให้ชัวร์ก่อน อาจทำให้ไปโดนเหล็กเสริมหลัก ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความแข็งแรงของอาคาร
ยิ่งหากโครงสร้างไม่แข็งแรงเหมือนเดิม การก่อให้เกิดความเสียหายที่ไม่คาดคิด อาจทำให้เกิด รอยร้าว ซึ่งอาจต้องเรียกวิศวกรเข้ามาประเมิน
หากทำให้อาคารไม่สามารถรองรับน้ำหนักได้ อาจต้อง เสียเวลาหาวิศวกรโครงสร้างมาแก้ไข
ระบบท่อเสียหาย หรือสายไฟ
อาคารที่ไม่มีแปลนโครงสร้างแน่นอน มีการเดินระบบที่อาจแตกต่างจากแปลนเดิม หากไม่ได้เช็กก่อนดำเนินงาน อาจกระทบระบบท่อแก๊ส หรือเกิดไฟไหม้รุนแรง
งบประมาณพุ่งสูง จากความเสียหายที่ไม่คาดคิด
การละเลยการตรวจสอบโครงสร้าง อาจทำให้ขั้นตอนเร็วขึ้น แต่ในความเป็นจริง เมื่อปัญหาเริ่มปรากฏ ค่าใช้จ่ายที่ต้องตามแก้ไขมักจะสูงกว่าหลายเท่า
ตัวอย่างง่ายๆ ถ้าคุณเจาะไปโดนท่อประปาหลักของอาคาร ต้องเสียเวลาหยุดงาน, ค่าซ่อมแซม, ค่าช่าง และอาจต้อง เรียกทีมกู้สถานการณ์ด่วน
สุดท้ายจบที่ ต้นทุนที่สูงเกินควบคุม และ โครงการต้องหยุดชะงัก ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อ ทีมบริหารโครงการ
เพิ่มความเสี่ยงในการทำงาน ของวิศวกร
นอกจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นแล้ว การตัดสินใจโดยขาดการวิเคราะห์ เพิ่มความเสี่ยงต่อ อุบัติเหตุของทีมช่างและวิศวกร
โดยเฉพาะ ความผิดพลาดที่เกิดจากการไม่ตรวจสอบ อาจเกิด ไฟดูดร้ายแรง
หรือหาก สกัดผิดตำแหน่งในพื้นที่สำคัญ อาจเกิด การถล่ม โดยที่ไม่มีใครทันตั้งตัว
ซึ่งในบางกรณี อาจทำให้โครงการต้องหยุดชะงัก ไปจนถึง ถูกฟ้องร้องจากเจ้าของอาคาร ได้เช่นกัน
ลดต้นทุนรีโนเวทได้จริงหรือ?
เมื่อพูดถึง ปรับปรุงโครงสร้างเดิม หลายคนอาจมองว่าเป็นเพียง ทำให้อาคารดูทันสมัยขึ้น แต่ในความเป็นจริง งานรีโนเวทเกี่ยวข้องกับโครงสร้างที่ซ่อนอยู่ภายใน
ภายในคอนกรีตอาจมี องค์ประกอบสำคัญของอาคาร, ระบบท่อน้ำ, ระบบไฟฟ้า หรือ รอยร้าวที่มองไม่เห็น หาก ปรับปรุงโดยไม่ตรวจสอบโครงสร้าง อาจทำให้เกิด ความเสียหายร้ายแรง เช่น
กระแทกโครงสร้างหลัก ทำให้ต้อง ซ่อมแซมเพิ่มเติม
เกิดรอยร้าวลึก จน กระทบต่อความปลอดภัยของอาคาร
คำถามสำคัญคือ
“การสแกนคอนกรีตก่อนรีโนเวท ช่วยประหยัดงบประมาณได้จริงหรือไม่?”
คำตอบคือ “ช่วยได้มาก” เพราะช่วย ลดความผิดพลาด
เหตุผลที่ควรสแกนคอนกรีตก่อนเริ่มรีโนเวท
ประหยัดงบจากความผิดพลาด
หาก เจาะพลาด อาจ เจาะสายไฟแรงสูง ซึ่ง การแก้ไขภายหลังมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าหลายเท่า เช่น
ค่ากู้คืนระบบไฟฟ้า
ค่าปรับปรุงเพิ่มเติม
ปรับปรุงอาคารได้ตรงจุด
ข้อมูลจาก เครื่องสแกน hilti x scan ps 1000 X-Scan PS 1000 ทำให้ ผู้รับเหมา สามารถ เลือกจุดที่ปลอดภัยสำหรับการทำงาน เช่น
หลีกเลี่ยงจุดเสี่ยง
วางแนวเสริมแรงได้อย่างถูกต้อง
ลดโอกาสผิดพลาดจากงานติดตั้ง
ป้องกันอุปกรณ์เสียหายจากการเจาะผิดพลาด
หาก ดำเนินการโดยใช้วิธีเดิม ๆ ทีมช่างอาจต้อง เสียเวลาค้นหาตำแหน่งสำคัญ ซึ่ง
ทำให้งานล่าช้า
กระแทกกับเหล็กเสริม
เพิ่มอายุการใช้งานของอุปกรณ์
ลงทุนกับการสแกน ดีกว่าเสียเงินซ่อมแซม
แม้ว่า การใช้เครื่องสแกนคอนกรีต จะมี ต้องลงทุนเพิ่ม แต่เมื่อเทียบกับ ต้นทุนจากความเสียหายที่ไม่คาดคิด เช่น
ค่ารื้อถอนที่ไม่จำเป็น
ค่าหยุดงานของทีมช่าง
การ สแกนก่อนรีโนเวท ช่วยให้ ทำให้โครงการดำเนินไปอย่างราบรื่น
ป้องกันปัญหา รีโนเวทอย่างแม่นยำ
ท้ายที่สุดแล้ว การสแกนคอนกรีตก่อนรีโนเวท ไม่ได้เป็นเพียง ขั้นตอนที่ช่วยลดอุบัติเหตุ แต่มันคือ ปัจจัยหลักที่ช่วยควบคุมงบประมาณ
ลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาด
ลดความเสี่ยงต่อโครงสร้างอาคาร
ทำให้มั่นใจว่าอาคารที่รีโนเวทจะแข็งแรงในระยะยาว
เทคโนโลยีที่ช่วยลดต้นทุนรีโนเวท ไม่ใช่แค่ เครื่องมือลดความเสี่ยง แต่เป็น อุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดต้นทุน